เกิดเรื่องฉาวในวงการนางงามแดนอิเหนา เมื่อผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สอินโดนีเซีย (Miss Universe Indonesia) หลายรายรวมตัวกันเข้าร้องทุกข์กับตำรวจ โดยกล่าวหาว่าผู้จัดงานประกวดได้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศพวกเธอ
ทนายความของผู้เข้าประกวดคนหนึ่งบอกว่า 2 วันก่อนรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 3 สิงหาคม ผู้จัดงานได้ขอให้ผู้เข้าประกวดถอดเสื้อเพื่อ “ตรวจร่างกาย” และถ่ายรูป โดยอ้างว่า ต้อง “ตรวจดูรอยแผลเป็น เซลลูไลต์ หรือรอยสักบนร่างกาย”
ในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (7 ส.ค.) ผู้เข้าประกวดคนหนึ่งกล่าวว่า การตรวจร่างกายเกิดขึ้นในห้องปิด แต่มีผู้ชายบางคนอยู่ในห้องนั้นด้วย และประตูก็ไม่ได้ปิดสนิท ทำให้ผู้คนภายนอกมองเห็นได้
หนึ่งในผู้เข้าประกวดบอกว่า “ฉันรู้สึกว่าสิทธิ์ของฉันถูกละเมิด … มันส่งผลกระทบต่อจิตใจฉัน ฉันมีปัญหาในการนอนหลับ”
ด้าน เมลิสซา อังเกรนี ทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของผู้เข้าประกวด 3 คนที่ถูกล่วงละเมิด กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีผู้เข้าประกวดคนอื่น ๆ อีกหลายคนออกมาแจ้งความเพิ่มคำพูดจาก เว็บสล็อตลิขสิ
อังเกรนีบอกว่า ผู้จัดงานยังขอให้ผู้เข้าประกวด 5 คนถอดกางเกงชั้นในเพื่อตรวจร่างกายในห้องที่มีคนมากกว่า 20 คน รวมทั้งผู้ชายด้วย และยังถ่ายภาพขณะพวกเธอเปลือยท่อนบนด้วย
เธอกล่าวว่า ผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้ายจะต้องได้รับ “การตรวจร่างกาย” ที่ไม่คาดคิดนี้
ผู้เข้าประกวดคนหนึ่งกล่าวในงานแถลงข่าวว่า เธอถูกขอให้โพสท่าทางที่ไม่เหมาะสมด้วย “ฉันรู้สึกเหมือนถูกแอบมอง ฉันสับสนและอึดอัดมาก”
ขณะที่ทางฝั่งตำรวจออกแถลงการณ์ว่า พวกเขาจะสอบสวนเพิ่มเติมร่วมกับองค์การมิสยูนิเวิร์สอินโดนีเซียของ ป็อปปี้ คาเปลลา
ส่วนองค์กรมิสยูนิเวิร์ส (MUO) กล่าวว่า กำลังพิจารณาเรื่องนี้และรับทราบข้อกล่าวหาเรื่องความไม่เหมาะสมทางเพศที่เกิดขึ้น “มิสยูนิเวิร์สให้ความสำคัญกับข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศและความไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง การจัดหาสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส”
ด้าน มาเรีย ฮาร์ฟันติ อดีตนางงามอินโดนีเซีย กล่าวว่า “โดยปกติแล้วผู้เข้าประกวดจะไม่ถูกขอให้เปลื้องผ้า” และเสริมว่า ผู้จัดงานมักจะขอค่า BMI หรือดัชนีมวลกายของผู้เข้าแข่งขันเพื่อตรวจสอบสัดส่วนของร่างกาย
เรียบเรียงจาก BBC / SCMP
ภาพจาก AFP