พื้นที่บางส่วนของประเทศจีนขณะนี้กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน บางพื้นที่ก็กลับเจอกับฝนตกหนัก ทำให้สัตว์ที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มปศุสัตว์ลหลายแห่ง รวมถึงไร่พืชผลการเกษตรได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่รุนแรง จนเกิดความกังวลว่าจะเกิดความมั่นคงทางอาหารในประเทศหรือไม่
เมื่อปีที่แล้ว ประเทศจีนเพิ่งประสบกับคลื่นความร้อนและความแห้งแล้งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งทำให้เกิดการขาดแคลนพลังงาน รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานอาหารและอุตสาหกรรมหยุดชะงัก
ปรับตัวสู้ภัยแล้ง อิรักเปลี่ยนทะเลทรายให้กลายเป็นไร่ข้าว
“พริโกซิน” อ้าง กองทัพรัสเซียแอบวางระเบิดหวังทำร้าย “แวกเนอร์”
สะเทือนขวัญ! แทงหญิงดับ 2 รายกลางห้างดังในฮ่องกง
แต่ในปีนี้คลื่นความร้อนจัดได้ส่งผลกระทบต่อหลายส่วนของประเทศจีนเร็วกว่าปีที่แล้ว
มีรายงานว่า หมู กระต่าย และปลา พากันตายจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด และทุ่งข้าวสาลีในภาคกลางของจีนก็ถูกน้ำท่วมจากฝนตกหนักที่สุดในรอบทศวรรษ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรายงานเกี่ยวกับสัตว์ในฟาร์มที่ตายจากความร้อนจัด
ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซูทางตะวันออก หมูหลายร้อยตัวตายในสัปดาห์นี้ หลังจากไฟฟ้าดับกะทันหันทำให้พัดลมหยุดทำงานตอนกลางคืน โดนพนักงานในฟาร์มระบุว่า หมูเหล่านี้ขาดอากาศหายใจตายเพราะความร้อนจัดและการไหลเวียนของอากาศที่ไม่ดี
ส่วนที่มณฑลกว่างซี คลื่นความร้อนได้คร่าชีวิตปลาคาร์ปในฟาร์มจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในนา ชาวบ้านบอกว่า ปลาของพวกเขา “เหมือนถูกลวกจนตาย” เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
ขณะเดียวกัน ราคาหัวกระต่ายซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อในมณฑลเสฉวนก็พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงทำให้กระต่ายในฟาร์มตายเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยแล้ว มีผู้บริโภคหัวกระต่ายมากกว่า 200 ล้านตัวต่อปี
สภาพอากาศที่รุนแรงยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการปลูกข้าวสาลีในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวสาลีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน คือราว 1 ใน 4 ของผลผลิตทั้งประเทศ โดยเกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วมในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมก่อนเวลาเก็บเกี่ยวเพียงไม่กี่วัน
ฝนตกดังกล่าว ทำให้พืชผลบางชนิดขึ้นราจนเสียหายไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ พืชผลที่ถูกทำลายคิดเป็น 20% ของผลผลิตบางส่วนตลอดทั้งปีนี้
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กังวลว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภัยแล้งอาจกระทบกับลุ่มแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวหลักของจีน
ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา อุณหภูมิในหลายสิบเมืองของจีนพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคลื่นความร้อนยังทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันมานี้ โดยหลายเมืองในมณฑลยูนนานและมณฑลเสฉวนรายงานอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
เซิ่ง เซี่ย หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการเกษตรของธนาคารด้านการลงทุน Citic Securities กล่าวว่า “สภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ภัยแล้งและน้ำท่วมอาจทำให้การผลิตอาหารหยุดชะงัก และทำให้อุปทานอาหารและน้ำมันมีความไม่แน่นอนมากขึ้น”
เขายังเตือนถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางอาหารที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนที่ทำให้อุณหภูมิอุ่นกว่าค่าเฉลี่ย เป็นครั้งแรกที่เอลนีโญทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับยุคก่อนอุตสาหกรรม
“สำหรับจีน ปรากฏการณ์เอลนีโญจะนำไปสู่ความไม่แน่นอนของสภาพอากาศที่เพิ่มขึ้นในลุ่มแม่น้ำแยงซีได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดน้ำท่วมในภาคใต้และภัยแล้งในภาคเหนือ และฤดูร้อนที่หนาวเย็นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เซิ่งกล่าว
ตามการประมาณการ คาดว่า เหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอีก โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายนอาจเกิดภัยแล้งและน้ำท่วมพร้อม ๆ กัน ซึ่งอาจทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ไหลลงสู่ตอนกลางของแม่น้ำแยงซีลดลงอย่างมาก และจะทำให้เกิดความแห้งแล้งและส่งผลกระทบต่อข้าวในภูมิภาคลุ่มน้ำแยงซี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวมากกว่า 2 ใน 3 ของจีน
เซิ่ง เซี่ย ตั้งข้อสังเกตว่า คลื่นความร้อนและภัยแล้งในภูมิภาคซินเจียง ทางตะวันตกของประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าวโพดและข้าวสาลีบางส่วนแล้วด้วยเช่นกันคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก AFP