นอกจากสงครามในฉนวนกาซา อีกประเด็นหนึ่งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน หยิบยกมาพูดระหว่างแถลงผลงานและนโยบายประจำปีหรือ State of the Union ต่อสภาคองเกรส คือสถานการณ์สงครามในยูเครน โดยประกาศว่าสหรัฐฯ จะไม่โดดเดี่ยวหรือปล่อยมือยูเครนแน่นอน ผู้นำสหรัฐฯ ยังใช้โอกาสนี้เรียกร้องต่อสภาคองเกรสให้ผ่านร่างงบประมาณช่วยเหลือทางการทหารต่อยูเครนที่ยังค้างอยู่ในขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎรด้วย
"โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงผลงาน-นโยบายประจำปี
ยูเครนไม่ทิ้งแผนรุกกลับ แม่ทัพบกชี้ถอยทัพเพื่อตั้งหลัก คำพูดจาก สล็อต777
จับกุมเครือข่ายแก๊งหลอกคนอินเดียไปเป็นทหารรัสเซียรบในยูเครน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนระบุว่า ประชาธิปไตยในยุโรปกำลังถูกคุกคาม หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครน และนี่ถือเป็นหน้าที่ของสหรัฐฯ ที่จะปกป้องยุโรป เพราะปูตินจะไม่หยุดอยู่ที่ยูเครนอย่างแน่นอน
โดยสิ่งที่สหรัฐฯ ทำได้คือ สภาคองเกรสต้องผ่านร่างงบประมาณเพื่อช่วยให้ยูเครนมีอาวุธสำหรับป้องกันตนเอง ไม่ใช่การส่งทหารอเมริกันไปช่วย อีกทั้งการป้องกันตนเองของยูเครนคือการปกป้องเสรีภาพของยุโรปด้วย พร้อมประกาศว่า สหรัฐฯ จะไม่ทอดทิ้งยูเครนและจะไม่ยอมก้มหัวให้รัสเซีย
ร่างงบประมาณที่ผู้นำสหรัฐฯ กำลังเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมีมูลค่า 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผ่านขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภาไปแล้วเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
ขณะนี้ร่างดังกล่าวติดอยู่ที่ขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจาก ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาที่สังกัดพรรครีพับลิกันไม่ยอมนำร่างบรรจุในวาระการประชุม หลังถูกล็อบบี้จาก โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังเป็นตัวเต็งพรรคในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
ท่าทีที่ไม่แน่นอนของสหรัฐฯ ในช่วงฤดูเลือกตั้งและสัญญาณการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ยุโรปต้องหันมาพึ่งพาตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมทางความมั่นคงและทางทหารในการรับมือกับรัสเซีย สิ่งหนึ่งคือการขยายสมาชิกของนาโต
สวีเดนเข้าเป็นสมาชิกนาโตอย่างเป็นทางการ
ล่าสุด สวีเดนได้เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 32 ของนาโตอย่างเป็นทางการ ต่อจากฟินแลนด์ที่ได้รับสถานะสมาชิกไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว
เมื่อวานนี้ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการทางเอกสารขั้นสุดท้ายที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ของสหรัฐฯ อุลฟ์ คริสเตอร์สัน นายกรัฐมนตรีสวีเดนได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่า สวีเดนได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต องค์กรประกันความมั่นคงยุโรปแล้ว โดยระบุว่า นี่เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของสวีเดนที่ได้ละทิ้งสถานะความเป็นกลางทางการทหารหรือ Neutrality ที่ยึดมา 200 ปีและเข้าร่วมกับพันธมิตรด้านการป้องกันของชาติตะวันตกอย่างสมบูรณ์
หลังรับรองสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกนาโตอย่างเป็นทางการ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ได้ออกมาระบุผ่านบัญชี X ว่า การเข้าเป็นสมาชิกของสวีเดนจะช่วยให้สวีเดนปลอดภัยขึ้น และช่วยให้พันธมิตรนาโตแข็งแกร่งและมั่นคงขึ้น
นี่ถือเป็นการปิดฉากเส้นทางการเข้าเป็นสมาชิกนาโตอันยาวนานกว่า 20 เดือน หลังสวีเดนสามารถปลดล็อกการให้สัตยาบันรับรองสมาชิกภาพจากตุรกีและฮังการีได้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
การตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกของสวีเดนเกิดขึ้นไม่กี่เดือนหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 โดยสวีเดนได้ละทิ้งสถานะความเป็นกลางทางการทหารมาที่มีมาตลอด 2 ทศวรรษ และสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโตพร้อมกับฟินแลนด์ ซึ่งได้รับสถานะสมาชิกไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว
สาเหตุหลักส่วนหนึ่งเป็นเพราะในทางภูมิรัฐศาสตร์ สวีเดนที่มีตำแหน่งที่ตั้งติดพื้นที่ทะเลบอลติกและอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากแคว้นคาลินินกราด ซึ่งเป็นดินแดนส่วนแยกติดทะเลบอลติกของรัสเซีย
นี่จึงทำให้สวีเดนมีความเสี่ยงจะเผชิญภัยคุกคามจากรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่มีสัญญาณเตือนจากชาติพันธมิตรยุโรปอยู่เป็นระยะว่า รัสเซียอาจไม่หยุดทำสงครามแค่ในยูเครน
การเข้าเป็นสมาชิกนาโตจึงทำให้สวีเดนได้รับการประกันความมั่นคงร่วม ตามมาตราที่ 5 ของกฎบัตร ที่ระบุให้สมาชิกนาโตต้องร่วมกันปกป้องชาติสมาชิกที่ถูกโจมตี
ไม่เพียงเท่านั้น สวีเดนยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มการป้องกันทะเลบอลติก ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างเขตแดนทางตะวันออกของนาโตและดินแดนทางตะวันตกของรัสเซีย และสามารถป้องปรามหรือป้องกันในกรณีที่รัสเซียบุกโจมตีได้มากขึ้น โดยการเข้ามาของสวีเดน ทำให้นาโตสามารถควบคุมบริเวณทะเลบอลติกได้อย่างสมบูรณ์และปิดล้อมรัสเซียทางตะวันตกได้
อีกสิ่งที่สวีเดนจะช่วยให้นาโตแข็งแกร่งได้ คือขีดความสามารถทางการทหารระดับสูง โดยเฉพาะกองทัพอากาศและกองทัพเรือที่มีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการบริเวณน่านน้ำทะเลบอลติกที่มีลักษณะเฉพาะ อีกทั้งกองทัพยังมีอาวุธยุทโธปกรณ์ประสิทธิภาพสูงหลายชนิดในคลัง รวมถึงมีอุตสาหกรรมการป้องกันที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตอาวุธที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง
นอร์เวย์-เยอรมนียกระดับความร่วมมือป้องกันภัยทางอากาศ
ต่อจากนี้หลังสวีเดนได้รับสถานะสมาชิกนาโตอย่างสมบูรณ์ จะมีพิธีเชิญธงสวีเดนขึ้นสู่เสาร่วมกับธงชาติของสมาชิกประเทศอื่นๆ โดยจะจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่นาโตในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมในวันจันทร์ที่ 11 มีนาคมที่จะถึงนี้
นอกเหนือจากการขยายสมาชิกนาโตเพื่อเพิ่มความสามารถในการป้องปรามรัสเซีย อีกสิ่งที่ชาติในยุโรปพยายามทำคือ การยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงเพื่อสนับสนุนยูเครนในการต้านทานรัสเซีย
เมื่อวานนี้ ระหว่างการเยี่ยมชมการซ้อมรบ ‘Nordic Response’ ร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Steadfast Defender 2024 การซ้อมรบของชาตินาโตที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็น รัฐมนตรีกลาโหมนอร์เวย์ ได้ลงนามในหนังสือแสดงความสนับสนุน ‘แนวร่วมการป้องกันภัยทางอากาศ’ ที่เยอรมนีและฝรั่งเศสเป็นผู้ริเริ่ม
นี่คือความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือยูเครนด้านการป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งกำลังเผชิญความท้าทายจากการโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงของรัสเซีย ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศเริ่มอ่อนแรงและขาดแคลนจรวดที่ใช้ยิงสกัดขีปนาวุธและโดรนที่พุ่งเข้ามาโจมตี
สื่อท้องถิ่นนอร์เวย์ระบุว่า รัฐบาลนอร์เวย์วางแผนที่จะจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS ให้แก่ยูเครนเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ารัฐบาลนอร์เวย์ได้ตัดสินใจร่วมจัดซื้อกระสุนปืนใหญ่เพื่อมอบให้แก่ยูเครน ตามแผนที่รัฐบาลเช็กเป็นผู้ริเริ่มอีกด้วย โดยจะมอบเงินจำนวน 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5 พัน 4 ร้อยล้านบาท ก่อนหน้านี้รัฐบาลเช็กระบุว่า สามารถหากระสุนปืนใหญ่ได้ทั้งหมด 800,000 นัดจากผู้ผลิตนอกยุโรป และได้โน้มน้าวให้ชาติในยุโรปร่วมลงเงินในแผน
โดยขณะนี้มีเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก แคนาดาและเบลเยียมที่ออกมาประกาศแล้วว่าจะร่วมในแผนของรัฐบาลเช็ก
ผู้นำมอลโดวาเตือน ต้องหยุดรัสเซียให้ได้ในสงครามยูเครน
หลังสงครามยูเครนก้าวเข้าสู่ปีที่สาม ความเสี่ยงที่สงครามจะลุกลามและขยายวงออกไปในยุโรปยิ่งทวีคูณความเป็นไปได้หนึ่งคือรัสเซียจะรุกคืบต่อไปยังประเทศอื่นที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต แต่พื้นที่หนึ่งที่มีสัญญาณออกมาเป็นระยะคือ มอลโดวา
เมื่อวานนี้ ระหว่างการแถลงข่าวหลังหารือร่วมกับเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ไมอา ซานดู ประธานาธิบดีมอลโดวาได้ออกมาย้ำอีกครั้งถึงความเสี่ยงที่รัสเซียจะขยายวงสงครามเข้าไปใกล้ยุโรปมากยิ่งขึ้น โดยระบุว่า ยุโรปต้องร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต้านทานรัสเซียให้ได้ และต้องหยุดรัสเซียให้ได้ในสงครามยูเครน ไม่เช่นนั้น ประธานาธิบดีปูติน จะไม่ยอมหยุดและรุกคืบต่อไปเรื่อยๆ
มอลโดวาคือพื้นที่หนึ่งที่มีความเสี่ยงว่าอาจเป็นประเทศที่ถูกรัสเซียรุกรานเป็นรายต่อไป เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน และที่สำคัญคือ รัฐบาลมอลโดวาพยายามหันหาสหภาพยุโรปมากขึ้น โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศเป็นตั้งของทรานส์นีสเตรีย ดินแดนแยกที่ปกครองโดยกลุ่มโปรรัสเซีย
อีกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงคือบริเวณรัฐบอลติกอย่างเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และฟินแลนด์ ที่มีพรมแดนติดกับรัสเซียและเป็นส่วนหนึ่งของนาโต ซึ่งก็เริ่มมีสัญญาณจากในหมู่ชาติพันธมิตรว่า อาจจะต้องเผชิญภัยคุกคามทางการทหารจากรัสเซียในอนาคต
8 มีนาคม “วันสตรีสากล” รำลึกการเรียกร้องสิทธิ ความเท่าเทียมของผู้หญิง
แฟนการ์ตูนอาลัย “โทริยามะ อากิระ” ผู้สร้าง “ดราก้อนบอล” เสียชีวิตแล้ว
ประกาศเตือนพายุฤดูร้อน ฉบับที่ 7 ฝนจ่อถล่มไทยหลายพื้นที่